กาวซีเมนต์ ผลิตภัณฑ์สำหรับงานปูกระเบื้องโดยเฉพาะ

กาวซีเมนต์ ไฮเซ็ม สแตนดาร์ด (สูตรมาตรฐาน)
Standard Tile Adhesive

กาวซีเมนต์-สูตรมาตรฐาน : สำหรับงานติดกระเบื้องโดยเฉพาะ ทั้งภายนอก-ภายในอาคาร

รหัสสินค้า : S-01

ราคา : XXX (Contact distributors) บาท / ถุง

ขนาดบรรจุ : 20 กก./ถุง

ปริมาณการใช้งาน : 5-7 ตารางเมตร/20 กก.(ถุง)

การเก็บรักษา : 1 ปี (นับจากวันผลิต) และควรเก็บไว้ในที่แห้งเพื่อยืดอายุการใช้งาน

กาวซีเมนต์ ไฮเซ็ม สแตนดาร์ด (สูตรมาตรฐาน) เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการค้นคว้าวิจัยสำหรับงานติดตั้งกระเบื้องโดยเฉพาะเพื่อใช้ในการปูกระเบื้องพื้นและผนัง ทั้งภายในและภายนอกอาคาร เพื่อใช้ในการตกแต่งกระเบื้องทั่วไป เช่น กระเบื้องโมเสก กระเบื้องเซรามิค กระเบื้องพอร์ซเลน (Porcelain) ให้มีความคงทนและมีประสิทธิภาพการใช้งานได้อย่างยาวนาน สวยงามตามความต้องการของสถาปนิกผู้ออกแบบและการก่อสร้างในยุคปัจจุบัน 

กาวซีเมนต์ ไฮเซ็ม สแตนดาร์ด (สูตรมาตรฐาน) มีเนื้อเนียนละเอียด เหนียวนุ่ม ลดปัญหาการไหลตัวของกระเบื้อง แห้งตัวในเวลาที่พอเหมาะ ทำให้ผลงานประณีตรวดเร็ว ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย (เนื่องจากสามารถประมาณความสิ้นเปลืองได้ตามการใช้งานจริง) ใช้ง่าย เพียงผสมน้ำก็สามารถใช้ได้ทันที

กาวซีเมนต์ ไฮเซ็ม สแตนดาร์ด (สูตรมาตรฐาน) นอกจากสามารถใช้ในงานติดตั้งกระเบื้องแล้ว ยังสามารถดัดแปลงใช้ในงานอิฐมวลเบาได้อย่างเนียนสนิท เนื่องจากมีส่วนประกอบของทรายละเอียดและมีประสิทธิภาพในการยึดเกาะสูง

กาวซีเมนต์ ไฮเซ็ม สแตนดาร์ด มีให้เลือก 2 สี คือ 

  • กาวซีเมนต์ สแตนดาร์ด (ผงสีเทา) สำหรับงานทั่วไป 
  • กาวซีเมนต์ สแตนดาร์ด (ผงสีขาว) สำหรับงานที่ต้องการความประณีตมากยิ่งขึ้นหรือต้องการความโปร่งแสงในการตกแต่งกระเบื้องโมเสกใส เป็นต้น

กาวซีเมนต์ ไฮเซ็ม สแตนดาร์ด (สูตรมาตรฐาน) มีส่วนประกอบสำคัญ ได้แก่ ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ Type I ทรายละเอียดคัดพิเศษ และสารเคมี (Additives) นำเข้าจากประเทศเยอรมันและประเทศชั้นนำอื่นๆ ผ่านการทดสอบตามมาตรฐานสากล ISO 13007-1: 2010 และ ANSI 118.1 ที่ทำให้เกิดคุณสมบัติเฉพาะตัว ในการสร้างแรงยึดเกาะระหว่างกระเบื้องกับพื้นผิวซีเมนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพทั้งในสภาวะปกติหรือในสภาวะที่มีการเปลี่ยนแปลงอันเนื่องมาจากสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูงหรือต่ำ สภาวะที่ต้องเผชิญกับความชื้น ทนต่อการเปลี่ยนแปลง (Deformability) จึงหมดปัญหาเรื่องการแตกร้าว/หลุดร่อนของกระเบื้องอย่างได้ผล ลดการเกิดคราบหินปูน (คราบน้ำเหนียวอันเนื่องมาจากไอน้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำฝนที่มีอัลคาไลน์สูง) และป้องกันการเกิดเชื้อราได้เป็นอย่างดี

  1. ทำความสะอาดพื้นผิวให้ปราศจากฝุ่นผง คราบสกปรก และคราบน้ำยาอื่นใดที่หลงเหลืออยู่จากการก่อสร้าง 
  2. ผสมกาวซีเมนต์ ไฮเซ็ม สแตนดาร์ด ด้วยน้ำสะอาด ในอัตราส่วน 3:1 โดยประมาณ คนให้เข้ากันด้วยเครื่องผสมปูนรอบต่ำ และทิ้งไว้ 3-5 นาที อย่าเติมน้ำเพิ่มอีก หลังจากบ่มกาวซีเมนต์จนได้ที่ กาวซีเมนต์พร้อมใช้งานได้ประมาณ 20-30 นาที (การผสมกาวซีเมนต์แต่ละครั้งควรผสมเพื่อให้ใช้ได้ในคราวเดียว) 
  3. ปาดกาวซีเมนต์บนพื้นผิวด้วยเกรียงด้านเรียบก่อน เพื่อให้เนื้อกาวครอบคลุมพื้นผิวทั้งหมด และเก็บฝุ่นผงที่อาจหลงเหลืออยู่ 
  4. แล้วจึงปาดกาวซีเมนต์ด้วยด้านเกรียงหวี หรือที่มีลักษณะเป็นฟันเลื่อยให้ได้ความหนาประมาณ 4-6 มม. แล้วกดกระเบื้องลงบนเนื้อกาวซีเมนต์ให้แน่ใจว่าพื้นผิวกระเบื้องสัมผัสกับเนื้อกาวซีเมนต์เต็มพื้นที่ (สำหรับกระเบื้องพอร์ซเลน หรือกระเบื้องที่มีการดูดซึมน้ำต่ำ อาจทากาวซีเมนต์บางๆ หลังแผ่นกระเบื้องที่จะปูก่อนกดลงบนกาวซีเมนต์ที่เตรียมไว้ด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดช่องว่างซึ่งอาจทำให้น้ำแทรกเข้าไปได้) 
  5. ปรับระดับและจัดตกแต่งกระเบื้องตามต้องการภายใน 20-30 นาที และไม่ควรขยับหรือปรับระดับอีกเมื่อกาวซีเมนต์เริ่มเซ็ทตัว (30 นาที โดยประมาณ) ระหว่างนี้ไม่ควรให้พื้นที่ตกแต่งกระเบื้องเปียกน้ำหรือมีน้ำขังโดยเด็ดขาด จากนั้นทิ้งไว้อย่างน้อย 48 ชั่วโมง หรือจนแน่ใจว่ากระเบื้องเซ็ทตัวโดยสมบูรณ์แล้วเท่านั้น จึงเปิดพื้นที่ให้ใช้งานได้ตามปกติ 
  6. ภายหลังการเซ็ทตัวของกระเบื้อง ควรยาแนวร่องกระเบื้องในเวลาที่พอเหมาะ เนื่องจากกาวยาแนวไม่สามารถสัมผัสพื้นผิวได้อย่างสมบูรณ์ และอาจทำให้กาวยาแนวหลุดร่อนออกมาได้ในที่สุด
  1. กรณีพื้นผิวใหม่ (โครงสร้างใหม่) ต้องทิ้งให้พื้นผิวซีเมนต์เซ็ทตัวอย่างสมบูรณ์หรือแห้งสนิท (สูงสุดที่ 28 วัน อาจสังเกตจากพื้นผิวซีเมนต์จะเปลี่ยนเป็นสีขาว) จึงเริ่มงานปูกระเบื้อง 
  2. กรณีพื้นปูนปรับระดับ หรือปูนฉาบซีเมนต์ใหม่ ต้องทิ้งให้พื้นผิวซีเมนต์แห้งเป็นเวลาอย่างน้อย 3-5 วัน 
  3. กรณีมีการซ่อมแซม หรือเก็บรายละเอียดเพื่อเตรียมพื้นผิว ต้องทำก่อนการปูกระเบื้องอย่างน้อย 3-5 วัน 
  4. ไม่ควรปูกระเบื้องในขณะที่อุณหภูมิสูงหรือแสงแดดจัด บางครั้งอาจต้องพรมน้ำที่พื้นผิวเพื่อช่วยลดอุณหภูมิ และลดการดูดซึมน้ำจากกาวซีเมนต์ไม่ให้แห้งเร็วจนเกินไป ซึ่งจะทำให้ประสิทธิภาพการยึดเกาะลดลงและหลุดร่อนในที่สุด ในขณะเดียวกันไม่ควรปูกระเบื้องขณะพื้นผิวซีเมนต์อุ้มน้ำไว้มากเช่นกัน เช่น ภายหลังฝนตกเพราะจะเป็นสาเหตุให้ปูนกาวเซ็ทตัวหรือแห้งตัวได้ยาก 
  5. การปูกระเบื้องด้วยกาวซีเมนต์ในแต่ละครั้ง ควรปาดกาวซีเมนต์เป็นพื้นที่กว้างไม่เกิน 1 ตารางเมตร เพราะจะทำให้กาวซีเมนต์แห้งตัวก่อนติดกระเบื้องเสร็จ
  • ปูกระเบื้องทั่วไป ภายใน-ภายนอก อาคาร พื้นและผนัง
  • งานเสริมพื้นผิวคอนกรีตเพื่อการกันซึม 
  • การก่อ/ฉาบ อิฐมวลเบา

กาวซีเมนต์ ไฮเซ็ม สแตนดาร์ด (สูตรมาตรฐาน) บรรจุในถุงกระดาษ และพลาสติกเพื่อป้องกันความชื้นอีกหนึ่งชั้น 

จึงช่วยลดปัญหาปูนแข็งก่อนการใช้งาน ง่ายต่อการกองเก็บและการขนย้ายขึ้นที่สูง ขนาด 20 กก./ถุง

ISO 13007-2005

Tensile adhesion strength after 28 days   1.18 N/mm2

Tensile adhesion strength after water immersion 0.88 N/mm2

Tensile adhesion strength after heat aging   0.87 N/mm2

Tensile adhesion strength after freeze-thaw cycle 0.75 N/mm2

Open time  30 mins

Slip resistance   0.20 mm.

Tensile adhesion strength after freeze-thaw cycle 1.06 N/mm2 

Open time 20 mins

Slip resistance 0.30 mm.